เผยเคล็ดลับการทานวิตามินซีป้องกันหวัด ทานอย่างไรให้ได้ผล

ซึ่ง “วิตามินซี” ก็จัดอยู่ในรายการของสารอาหารอันดับต้น ๆ ที่ได้รับการแนะนำให้รับประทานเสริม เพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากหวัด ทว่าจะช่วยได้จริงหรือไม่ และทำอย่างไรให้การทานวิตามินซีสามารถป้องกันหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้มีคำตอบดี ๆ มาฝากกัน

รู้ทัน “อาการหวัด” สาเหตุที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีไวรัสไข้หวัดหลากหลายรูปแบบที่เป็นต้นตอของอาการป่วย แต่ลักษณะของการเกิดมักมาจากการติดเชื้อบริเวณทางเดินหายใจตอนต้น เช่น จมูก คอ ไซนัส และกล่องเสียงในขั้นเริ่มต้น ก่อนจะเดินทางไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในระบบที่เกี่ยวข้อง 

อย่างที่รู้กันดีว่าอาการหวัดนั้นมีการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และติดต่อกันได้อย่างง่ายดายโดยมีทั้งอากาศและสารคัดหลั่งเป็นพาหะสำคัญ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้สิ่งของร่วมกัน การสัมผัสตัวผู้ป่วย หรือแม้แต่อยู่ใกล้ชิดก็มีโอกาสที่จะติดหวัดได้อย่างง่ายดาย

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะป่วยเพราะหวัดในทันที เพราะคนที่มีภูมิคุ้มกันสูงก็สามารถป้องกันการเป็นหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสาเหตุนี้การทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือเสริมด้วยวิตามินซีในช่วงที่ป่วย จึงช่วยแก้หวัดได้อย่างเห็นผล

สัญญาณเริ่มต้น…บอกว่าคุณกำลังเป็นหวัด

จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังอยู่ในสภาวะติดเชื้อ และกำลังจะป่วยเป็นไข้หวัด?     สัญญาณเหล่านี้คือสิ่งที่กำลังแสดงออก เพื่อบอกว่าร่างกายของคุณกำลังติดเชื้อ โดยอาการเริ่มต้นมักจะมีดังนี้

• เจ็บคอ 
• มีอาการคัดจมูกและน้ำมูกไหล  
• หายใจได้ไม่สะดวกเนื่องจากจมูกบวม 
• มีน้ำมูกอุดตันภายในจมูก 
• มีอาการไอจามและเสียงแหบ
• รู้สึกอ่อนเพลียและไม่สบายตัว

เผยประโยชน์ของวิตามินซี ตัวช่วยแก้หวัดที่มีประสิทธิภาพ

หากจะพูดถึงวิตามินที่ช่วยป้องกันหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ “วิตามินซี” ถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นเกราะเหล็กชั้นยอด ส่งผลให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค และลดโอกาสเกิดอาการป่วยได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม วิตามินซีไม่อาจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากปราศจากวิธีการรับประทานที่เหมาะสม ตลอดจนการรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุที่เหมาะสมในปริมาณที่เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวิตามินซีได้อย่างเห็นผล ป้องกันหวัดได้แน่นอน

Tips: การทานวิตามินซีแก้หวัดที่มีประสิทธิภาพควรจะต้องทานอย่างน้อย 90 มิลลิกรัมต่อวัน และไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัมในวัยผู้ใหญ่ สำหรับวัยรุ่นจะอยู่ที่ 1,800 มิลลิกรัม และวัยเด็กจะอยู่ที่ 400 - 1,200 มิลลิกรัมกรัม ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ในกรณีที่ใช้วิตามินซีบรรเทาร่วมกับรักษาอาการหวัด (Snyder, MS, RD, 2019, “How Much Vitamin C Should You Take?”)

1. รับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง

วิธีเพิ่มวิตามินซีช่วยแก้หวัดในช่วงที่ร่างกายกำลังป่วย หรือสร้างภูมิคุ้มกันแบบง่าย ๆ คือการเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินสูง ซึ่งถือเป็นการรับวิตามินจากแหล่งธรรมชาติที่ดี แถมยังได้ประโยชน์ในการดูแลหุ่นและผิวพรรณเป็นอย่างดี และนี่คือผักผลไม้ที่ถูกจัดอันดับว่ามีวิตามินซีสูง และหาทานได้ง่าย

• บรอกโคลี วิตามินซี 89.2 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณที่สูงแล้ว ยังมีคุณค่าทางอาหารที่หลากหลาย สามารถรับประทานได้ทั้งส่วนดอกและลำต้น พร้อมช่วยต้านอนุมูลอิสระสาเหตุของการเกิดมะเร็งได้ดี

• พริกหวาน วิตามินซี 80.4 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

พริกหวานสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด ๆ และปรุงสุก ทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เบตาแคโรทีน ตลอดจนวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุเหล็ก และโพแทสเซียม สำหรับใครที่ต้องการรับวิตามินซีแบบเต็มอิ่ม ทานแก้หวัดในช่วงที่ร่างกายป่วย อาจเลือกเป็นพริกหวานที่แก่แล้วและมีสีแดง สีส้ม สีเหลือง เพราะจะให้วิตามินซีที่สูงเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

• ส้ม วิตามินซี 53.2 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีอย่างแท้จริง แต่รู้ไหมว่านอกเหนือจากนี้ยังมีวิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งยังช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี

• ฝรั่ง วิตามินซี 160 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

ฝรั่งคือหนึ่งในผลไม้ที่วิตามินซีสูงมาก ๆ และพบได้บริเวณเปลือก โดยควรเลือกฝรั่งที่ยังไม่สุกดี เนื่องจากผลที่มีความสุกมากเกินไปจะมีปริมาณวิตามินซีน้อยลง

2. ทานวิตามินซีทางเลือก เพื่อเสริมการทำงานของร่างกาย

อีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ในการการเพิ่มวิตามินซีให้แก่ร่างกาย สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบทานผักหรือผลไม้จนเป็นนิสัย ผลิตภัณฑ์วิตามินซีจึงเป็นทางเลือกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยเติมเต็มให้ร่างกายได้รับในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณที่แพทย์แนะนำตามศาสตร์ชะลอวัยว่าด้วยเรื่องประโยชน์ด้านภูมิต้านทานและร่างกาย จะอยู่ที่วันละ 1,000 มิลลิกรัม และกลุ่มผู้ป่วยโรคหวัดและภูมิแพ้ที่มีอัตราป่วยค่อนข้างบ่อย จะอยู่ที่ 2,000 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะช่วยให้คุณสามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมมากที่สุด (โรงพยาบาลกรุงเทพ, “รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง”.) 

ซึ่งในปัจจุบันก็มีรูปแบบของวิตามินซีช่วยป้องกันหวัดให้เลือกรับประทานอยู่มากมาย พร้อมตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกวัย

ส่งเสริมประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุสังกะสี (Zinc)

รู้หรือไม่ว่าประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันสามารถเพิ่มได้ง่าย ๆ เพียงรับประทานวิตามินซีควบคู่กับแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พร้อมผสานการทำงานร่วมกัน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี สามารถป้องกันและต้านทานเชื้อไวรัส ตลอดจนสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดอาการป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการทานแร่ธาตุสังกะสีกับวิตามินซี

ด้วยประโยชน์ของแร่ธาตุสังกะสีที่มีความสำคัญในการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมช่วยป้องกันเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายเช่นเดียวกับวิตามินซี จึงทำให้การรับประทานแร่ธาตุสังกะสีและวิตามินซีร่วมกันจะช่วยเพิ่มการสร้างภูมิต้านทาน และการทำงานของวิตามินซีได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยป้องกันหวัดได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ สังกะสียังเป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีก เช่น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งยังสามารถควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ให้ทำงานได้อย่างสมดุล พร้อมช่วยลดการเกิดปัญหาผิว อาทิ สิวอุดตัน ได้เป็นอย่างดี และในส่วนของปริมาณแร่ธาตุสังกะสีที่ควรได้รับต่อวันของผู้ชายจะอยู่ที่ประมาณ 14 มิลลิกรัม และผู้หญิงจะอยู่ 8 มิลลิกรัม จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

หากใครกำลังมองหาแนวทางการทานวิตามินซีเพื่อป้องกันหวัด พร้อมเสริมสร้างระบบการทำงานของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น อย่าลืมคำนึงถึงการรับคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน ทั้งวิตามินซีและแร่ธาตุสำคัญ โดยเฉพาะแร่ธาตุสังกะสี ที่มีประโยชน์จำเป็นต่อร่างกาย พร้อมดูแลควบคุมให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายดำเนินไปได้อย่างปกติ ใครอยากมีร่างกายแข็งแรง พร้อมเอาชนะไข้หวัดต้องไม่พลาดใส่ใจถึงคุณค่าทางสารอาหารอย่างเหมาะสมและครบครัน

แหล่งอ้างอิง :

*1. โรงพยาบาลกรุงเทพ. รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 จาก https://www.bangkokhospital.com/content/know-vitamin-c-deeply 

*2. โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน. วิตามิน C มีดีอย่างไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 จาก  https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/Food-exercise/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99-C-%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3 

*3. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี. 10 ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 จาก  https://pri.moph.go.th/index.php/services/people/healthknowledge/31-workingage/44-vegetables 

*4. Cecilia Snyder, MS, RD. How Much Vitamin C Should You Take?. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 จาก https://www.healthline.com/nutrition/how-much-vitamin-c-should-i-take-daily#overdose